FBS ก้าวเข้าสู่ปีที่ 16

ปลดล็อกของรางวัลวันเกิด: ตั้งแต่แก็ดเจ็ตและรถในฝันไปจนถึงทริป VIPเรียนรู้เพิ่มเติม
เปิดบัญชี
เปิดบัญชีล็อกอิน
เปิดบัญชี

13 พ.ค. 2025

กลยุทธ์

วิธีขี่คลื่นแนวโน้ม

วิธีขี่คลื่นแนวโน้ม

เมื่อเทรดเดอร์มือใหม่มองหาข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการเริ่มเทรดให้ได้กำไร พวกเขามักจะเจอคำแนะนำที่บอกให้เทรดตามแนวโน้ม ถ้าคู่เงินกำลังขึ้นก็ให้ซื้อ แต่ถ้ามันกำลังลงก็ให้ขาย แน่นอนว่าคำแนะนำนี้มีเหตุผลอยู่มาก แต่เมื่อนำไปปฏิบัติจริงก็จะเห็นว่ามันไม่ง่ายขนาดนั้น การจะทำกำไรจากการเทรดตามแนวดน้มได้ คุณต้องมีคำแนะนำที่ละเอียดกว่านี้ บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับกลยุทธ์การเทรดตามแนวดน้ม พร้อมขั้นตอนต่าง ๆ ที่ควรปฏิบัติ

แนวโน้มมีหลายแบบ

ก่อนที่คุณจะเริ่มเปิดคำสั่งซื้อขายในแอป FBS หรือ MetaTrader คุณต้องรู้ก่อนว่าแนวโน้มแบ่งออกเป็น 3 ประเภทตามระยะเวลา:

  • แนวโน้มระยะยาว (Primary trends)

  • แนวโน้มระยะกลาง (Intermediate trends)

  • แนวโน้มระยะสั้น (Short-term trends)

เมื่อเทรดเดอร์ถามเราว่า "กราฟ EURUSD มีแนวโน้มเป็นอย่างไร?" เรามักจะถามกลับว่า "คุณกำลังพูดถึงกรอบเวลาไหน?" ถ้าคุณตรวจสอบกรอเวลาต่าง ๆ ของ EURUSD กราฟที่คุณเห็นอาจแตกต่างกันมาก

แนวโน้มระยะยาวอาจคงอยู่ได้ 8 เดือนถึง 2 ปี โดยแสดงภาพรวมที่ใหญ่ขึ้นและสะท้อนความแตกต่างของความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศของสกุลเงินในคู่เงินนั้น ๆ เช่น สหภาพยูโรและสหรัฐอเมริกา

ส่วนแนวโน้มระยะกลางมักอยู่ได้ 1-8 เดือน และมักเกิดขึ้นภายในแนวโน้มระยะยาวหลัก แต่ในทิศทางตรงกันข้าม ส่วนแนวโน้มระยะสั้นอาจอยู่ได้เพียง ไม่กี่วันถึง 1 เดือน ซึ่งเกิดจากการเคลื่อนไหวของเงินทุนทั่วโลกจากข่าวเศรษฐกิจและการเมือง แนวโน้มแบบนี้ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถทำกำไรในช่วงเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงได้

สิ่งสำคัญที่ต้องจำไว้คือ แม้คุณจะเทรดแค่ในช่วงกลางวัน คุณก็จำเป็นต้องรู้ทั้งแนวโน้มระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว รวมถึงต้องลากเส้นแนวโน้มของแต่ละแบบด้วย บางครั้งราคาอาจเจอแนวต้านหรือแนวรับของแนวโน้มที่ใหญ่กว่า ถ้าคุณสามารถระบุแนวโน้มทั้ง 3 แบบบนกราฟได้ คุณจะสามารถมองภาพตลาดได้ชัดเจนขึ้น

ระยะต่าง ๆ ของแนวโน้ม

สิ่งสำคัญถัดไปคือ ทุกแนวโน้มประกอบด้วย 4 ระยะหลัก ๆ:

  1. แนวโน้มใหม่เพิ่งก่อตัว (Young trend)

  2. แนวโน้มแข็งแกร่งและชัดเจน (Mature trend)

  3. แนวโน้มเริ่มอ่อนแรง (Aging trend)

  4. แนวโน้มเปลี่ยนทิศทาง (Reversing trend)

ถ้าแนวดน้มมันหมดยุคแล้ว จะไปเทรดมันก็เสียเวลา เราควรจับแนวโน้มตอนมันเพิ่งเริ่ม หรือกำลังมาแรง ถึงจะทำกำไรได้เต็ม ๆ

image 01th.jpg

คุณควรมองหาระยะ 2 ในจุดนี้ คุณจะสามารถลากเส้นแนวโน้มได้ สำหรับแนวโน้มขึ้น คุณจะต้องมีจุดต่ำสุดอย่างน้อย 2 จุด - จุดต่ำสุดเริ่มต้นและจุดต่ำสุดที่สูงกว่า หากคุณมีจุดต่ำสุด 3 จุดเพื่อเชื่อมต่อ นั่นยิ่งดีกว่า - มันหมายความว่าแนวโน้มได้ก่อตัวขึ้นจริง ๆ เส้นแนวโน้มจะกลายเป็นเส้นแนวรับ สำหรับแนวโน้มลง คุณจะต้องมีจุดสูงสุดอย่างน้อย 2 จุด - จุดสูงสุดแรกและจุดสูงสุดที่สองที่ต่ำกว่า เช่นเดียวกับก่อนหน้านี้ การเชื่อมจุดสูงสุด 3 จุดจะดีกว่า ในกรณีนั้น เส้นแนวโน้มจะกลายเป็นเส้นแนวต้าน

image 02.jpg

การไม่ละเลยหรือขี้เกียจในการวาดเส้นแนวโน้มเป็นสิ่งสำคัญมาก เส้นเหล่านี้เป็นเครื่องมือวิเคราะห์กราฟที่เรียบง่ายแต่มีประสิทธิภาพ ไม่เพียงช่วยระบุจุดที่ราคาอาจกระดอนจากแนวรับหรือแนวต้านเท่านั้น แต่ยังแสดงความแข็งแกร่งของแนวโน้มอีกด้วย จำหลักการนี้ไว้: เส้นแนวโน้มที่ชันมาก ยิ่งมีโอกาสที่ราคาจะทะลุผ่าน หากราคาพุ่งขึ้นเร็วเกินไป ผู้ซื้อที่ผลักดันราคาขึ้นจะหมดแรงในไม่ช้า และตลาดจะกลับทิศทาง หากคุณต้องการเลือกแนวโน้มที่ดีที่ยั่งยืนพอสมควร ให้เลือกแนวโน้มที่มีเส้นแนวโน้มที่ไม่ชันเกินไป   

เรายังแนะนำให้สังเกตการปรับฐานและการสะสมราคาที่เกิดขึ้นระหว่างแนวโน้ม ดังที่เห็น แม้ราคาจะมีแนวโน้มขึ้นหรือลง แต่ก็ไม่ได้เคลื่อนที่เป็นเส้นตรงตลอดเวลา การปรับฐานคือช่วงที่คู่สกุลเงินถอยกลับทิศทางตรงข้ามกับแนวโน้มหลัก ส่วนการสะสมราคาคือช่วงที่ราคาเคลื่อนที่ในแนวนอน

หากช่วงการเคลื่อนที่สวนแนวโน้ม(การปรับฐาน) สั้นลง และกรอบการเคลื่อนที่ออกข้าง(การสะสมราคา) แคบลง นั่นแสดงว่าคุณพบแนวโน้มที่แข็งแกร่งและน่าเชื่อถือที่สามารถเทรดได้อย่างปลอดภัย

image 03th.jpg

ตัวบ่งชี้ทางเทคนิค

ใน MT4 มีกลุ่มตัวบ่งชี้ที่เรียกว่า "ตัวบ่งชี้แนวโน้ม" ซึ่งช่วยให้คุณติดตามแนวโน้มได้

Moving average จะช่วยระบุแนวโน้มขาขึ้นหรือขาลง และทำหน้าที่เป็นแนวรับและแนวต้าน เราแนะนำให้ใช้เส้น simple moving averages (SMA) พร้อมตั้งค่าช่วงเวลาที่ 20, 50, 100 และ 200

ADX แสดงทิศทางและความแข็งแกร่งของแนวโน้ม ค่าที่สูงกว่า 30 บ่งชี้ว่าแนวโน้มมีความแข็งแกร่ง ข้อควรระวังคือตัวบ่งชี้นี้ค่อนข้างช้า

เทรดเดอร์ยังสามารถใช้ออสซิลเลเตอร์ (ตัวบ่งชี้ที่แกว่งรอบค่ากลางและแสดงในหน้าต่างแยกใต้กราฟราคา) ได้ หลังจากที่คุณกำหนดทิศทางแนวโน้มโดยใช้เส้นแนวโน้มหรือเส้น moving averages แล้ว ให้ตรวจสอบ Stochastic oscillator ในแนวโน้มขาขึ้น เส้น Stochastic ควรมีความชันขึ้นอย่างชัดเจน ส่วนในแนวโน้มขาลง เส้น Stochastic ควรลาดเอียงลงอย่างชัดเจน หากราคาสร้างจุดสูงสุดใหม่ในแนวโน้มขาขึ้น แต่ Stochastic ไม่ทำตาม นี่อาจเป็นสัญญาณของการกลับตัวลง

image 04th.jpg

คุณสามารถได้รับข้อมูลคล้ายกับที่ให้โดยตัวบ่งชี้ Stochastic จากออสซิลเลเตอร์อีกตัวหนึ่งที่เรียกว่า MACD ความแตกต่างคือ MACD จะมาในรูปแบบของฮิสโตแกรม (แท่งใต้กราฟราคา) ในช่วงที่ตลาดเป็นขาขึ้น แท่ง MACD ควรจะใหญ่ขึ้น ในขณะที่ในช่วงขาลงพวกมันควรจะลดลงและเข้าสู่พื้นที่ลบ

กลยุทธ์การเทรดโดยใช้แนวโน้ม

วิธีที่ดีที่สุดคือการเดินตามตลาด ขั้นตอนที่แนะนำมีดังนี้:

  1. กำหนดระยะเวลาที่คุณต้องการอยู่ในแนวโน้ม การตัดสินใจนี้จะส่งผลต่อกรอบเวลาที่คุณเลือกสำหรับการเทรด หากคุณตัดสินใจเทรดภายในวัน (คือถือคำสั่งเพียงไม่กี่ชั่วโมง) ให้กำหนดแนวโน้มบนกรอบเวลารายวัน นอกจากนี้ คุณยังสามารถใช้กราฟ H4 และ H1 เพื่อวางแผนการเทรดได้ เราไม่แนะนำให้เสียเวลากับกรอบเวลาเล็ก ๆ เช่น M15 เพราะสถานการณ์เปลี่ยนแปลงเร็วเกินไปสำหรับการวิเคราะห์ที่ดีให้กับคำสั่งซื้อขายที่จะเปิดไว้หลายชั่วโมง

  2. ระบุแนวโน้ม — เป็นขาขึ้นหรือขาลง? ตรวจสอบข่าวเศรษฐกิจและการวิเคราะห์ พยายามเข้าใจว่าปัจจัยพื้นฐาน (ทางเศรษฐกิจ) หรือข่าวใดที่อยู่เบื้องหลังแนวโน้มนี้ เป็นไปได้ไหมที่ตลาดกำลังคาดการณ์เหตุการณ์สำคัญ? หรืออาจมีบางอย่างเกิดขึ้นแล้วและกำลังส่งผลกระทบต่อตลาด? หากตลาดมีแนวโน้มขาขึ้น คุณสามารถเข้าซื้อในช่วงขาขึ้น หากตลาดมีแนวโน้มขาลง คุณสามารถเปิดขายในช่วงขาลง

  3. ลากเส้นแนวโน้ม เส้นเหล่านี้ชันหรือปกติ? ราคาได้ทดสอบเส้นแนวโน้มไปกี่ครั้งแล้ว? หากราคาสัมผัสเส้นแนวรับเป็นครั้งที่สามในขาขึ้นและดึงกลับในช่วงขาขึ้น นี่เป็นสัญญาณให้เข้าซื้อ

  4. ตรวจสอบตัวบ่งชี้ทางเทคนิค เพื่อให้แน่ใจว่ามันยืนยันแนวโน้ม

  5. กำหนดระยะของแนวโน้ม การเทรดในช่วงเริ่มต้นหรือตอนสิ้นสุดแนวโน้มนั้นมีความเสี่ยง ควรเลือกแนวโน้มที่มีความแข็งแกร่งอย่างชัดเจน

  6. วางคำสั่ง limit ใกล้เส้นแนวโน้ม ในขาขึ้น ให้วางคำสั่ง buy limit ที่เส้นแนวรับ ส่วนในขาลง ให้วางคำสั่ง sell limit ใกล้เส้นแนวต้าน

  7. ตั้ง stop-loss ป้องกันไว้ที่อีกฝั่งของเส้นแนวโน้ม stop-loss ของคุณไม่ควรแคบเกินไปจนทำให้คำสั่งซื้อขายถูกปิดเพียงเพราะความผันผวนประจำวัน ไม่มีสูตรสำเร็จสำหรับการเลือก stop-loss ขึ้นอยู่กับว่าคุณวางแผนจะถือคำสั่งซื้อขายไว้นานแค่ไหน (คุณต้องรู้จุดที่จะปิดคำสั่งซื้อขายด้วยกำไร) และขนาดคำสั่งซื้อขายของคุณ โดยทั่วไป stop-loss ควรอยู่ที่ประมาณ 1/3 ของ take-profit สรุปแล้ว สำหรับการเทรดภายในวันที่เปิดไว้หลายชั่วโมง ควรตั้ง stop-loss ให้มากกว่า 15 pip

image 05th.jpg

แบ่งปันกับเพื่อน ๆ:

เปิดบัญชี FBS

โดยการลงทะเบียน คุณได้ยอมรับเงื่อนไขของ ข้อตกลงลูกค้า FBS และ นโยบายความเป็นส่วนตัว FBS และยอมรับความเสี่ยงทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการซื้อขายในตลาดการเงินระดับโลก

FBS ณ สื่อสังคมออนไลน์

iconhover iconiconhover iconiconhover iconiconhover icon

ติดต่อเรา

iconhover iconiconhover iconiconhover iconiconhover icon
store iconstore icon
ดาวน์โหลดได้ที่
Google Play

การซื้อขาย

บริษัท

เกี่ยวกับ FBS

เอกสารทางกฎหมาย

ข่าวเกี่ยวกับบริษัท

สโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ซิตี้

ศูนย์ช่วยเหลือ

โปรแกรมพันธมิตร

เว็บไซต์นี้ดำเนินการโดย FBS Markets Inc. หมายเลขจดทะเบียน 000001317 ซึ่ง FBS Markets Inc. ได้รับการจดทะเบียนโดย Financial Services Commission ภายใต้พระราชบัญญัติอุตสาหกรรมหลักทรัพย์ฯ 2021 (Securities Industry Act 2021) ใบอนุญาตเลขที่ 000102/31 ที่อยู่สำนักงาน: 9725, Fabers Road Extension, Unit 1, Belize City, Belize

โดย FBS Markets Inc. ไม่ได้ให้บริการทางการเงินแก่ผู้อยู่อาศัยในเขตอำนาจศาลบางแห่ง ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง: สหรัฐอเมริกา, สหภาพยุโรป, สหราชอาณาจักร, อิสราเอล, สาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่าน, เมียนมาร์

ธุรกรรมการชำระเงินได้รับการจัดการโดย HDC Technologies Ltd.; Registration No. HE 370778; Legal address: Arch. Makariou III & Vyronos, P. Lordos Center, Block B, Office 203, Limassol, Cyprus ที่อยู่เพิ่มเติม: Office 267, Irene Court, Corner Rigenas and 28th October street, Agia Triada, 3035, Limassol, Cyprus

เบอร์ติดต่อ: +357 22 010970 เบอร์ติดต่อเพิ่มเติม: +501 611 0594

สำหรับความร่วมมือ กรุณาติดต่อเราผ่าน [email protected]

คำเตือนเรื่องความเสี่ยง: ก่อนที่คุณจะเริ่มทำการซื้อขาย คุณควรเข้าใจความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับตลาดสกุลเงินและการซื้อขายโดยใช้มาร์จิ้นอย่างถ่องแท้ และคุณควรตระหนักถึงระดับประสบการณ์ของตนเอง

การคัดลอก การทำสำเนา การเผยแพร่ รวมถึงแหล่งข้อมูลอินเทอร์เน็ตของเนื้อหาใดๆ จากเว็บไซต์นี้สามารถดำเนินการได้เฉพาะเมื่อได้รับการอนุญาตที่เป็นลายลักษณ์อักษรเท่านั้น

ข้อมูลบนเว็บไซต์นี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน การชี้แนะ หรือการชักชวนให้มีส่วนร่วมในกิจกรรมการลงทุนใด ๆ ทั้งสิ้น