วิธีการเทรดรูปแบบ Morning Star และ Evening Star

บทความนี้จะมุ่งเน้นไปที่รูปแบบแท่งเทียนกลับตัว ที่น่าเชื่อถือที่สุด 2 รูปแบบที่เทรดเดอร์นิยมใช้ ได้แก่ Morning Star และ Evening Star

Morning Star คืออะไร?

รูปแบบ Morning Star จะปรากฏขึ้นในช่วงท้ายของแนวโน้มขาลง ซึ่งบ่งบอกถึงการกลับตัวเป็นขาขึ้นที่กำลังจะเกิดขึ้น รูปแบบนี้ประกอบด้วยแท่งเทียน 3 แท่ง ได้แก่ แท่งสีแดงยาว ตามด้วยแท่งเทียนสีแดงหรือเขียวสั้น และปิดท้ายด้วยแท่งสีเขียวยาว ตามหลักการแล้ว แท่งเทียนที่สองควรมีช่องว่างเปิดลงมาจากแท่งแรก (เปิดต่ำกว่าจุดปิดของวันก่อนหน้า) และแท่งเทียนที่สามควรมีช่องว่างเปิดขึ้นไปจากแท่งที่สอง (เปิดสูงกว่าจุดปิดของวันก่อนหน้า)

การปรากฏตัวของรูปแบบ Morning Star ทำให้ฝั่งขายเริ่มสูญเสียโมเมนตัมและฝั่งซื้อเริ่มเข้าควบคุมตลาด การเปลี่ยนแนวโน้มเช่นนี้ชี้ให้เห็นว่าราคาสินทรัพย์มีแนวโน้มจะปรับตัวสูงขึ้น เทรดเดอร์อาจพิจารณาเปิดสถานะ long

อย่างไรก็ตาม เทรดเดอร์ไม่ควรใช้เพียงแค่รูปแบบ Morning Star เป็นตัวบ่งชี้เดียวในการตัดสินใจเข้าเทรด ยังมีปัจจัยสำคัญอื่น ๆ ที่ต้องพิจารณาร่วมด้วย เช่น การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานของสินทรัพย์ สภาวะตลาดในขณะนั้น และกลยุทธ์การจัดการความเสี่ยง

Evening Star คืออะไร?

รูปแบบ Evening Star เป็นรูปแบบที่ตรงกันข้ามกับ Morning Star โดยสิ้นเชิง ในขณะที่ Morning Star เป็นสัญญาณขาขึ้น Evening Star กลับเป็นรูปแบบที่บ่งบอกถึงการกลับตัวเป็นขาลงในตลาดขาขึ้น รูปแบบนี้ประกอบด้วยแท่งเทียน 3 แท่ง ได้แก่ แท่งสีเขียวยาว ตามด้วยแท่งเทียนสีแดงหรือเขียวสั้น และปิดท้ายด้วยแท่งสีแดงยาว ตามหลักการแล้ว แท่งเทียนที่สองควรมีช่องว่างเปิดขึ้นไปจากแท่งแรก (เปิดสูงกว่าจุดปิดของวันก่อนหน้า) และแท่งเทียนที่สามควรมีช่องว่างเปิดลงมาจากแท่งที่สอง (เปิดต่ำกว่าจุดปิดของวันก่อนหน้า)

รูปแบบ Evening Star ช่วยให้เทรดเดอร์และนักลงทุนสามารถระบุโอกาสในการขายสินทรัพย์ก่อนที่ราคาจะลดลงได้ อย่างไรก็ตาม เช่นเดียวกับรูปแบบ Morning Star สิ่งสำคัญที่ต้องจำไว้คือไม่มีตัวบ่งชี้ทางเทคนิคหรือรูปแบบใดที่แม่นยำสมบูรณ์แบบ ควรใช้เครื่องมือและเทคนิคการวิเคราะห์หลาย ๆ อย่างประกอบกันเสมอเพื่อการตัดสินใจเข้าเทรดที่รอบคอบ

วิธีการเทรดด้วยรูปแบบ Morning Star

เมื่อใช้รูปแบบ Morning Star เป็นเครื่องมือในการเทรด เทรดเดอร์ควรสังเกตลักษณะดังต่อไปนี้:

• แท่งเทียนแรกต้องเป็นแท่งสีแดงยาว ซึ่งบ่งชี้ถึงแนวโน้มขาลง

• แท่งเทียนที่สองควรเป็นแท่งสั้นและเปิดต่ำกว่าจุดปิดของแท่งแรก (gap down)

• แท่งเทียนที่สามต้องเป็นแท่งสีเขียวยาวและเปิดสูงกว่าจุดปิดของแท่งที่สอง (gap up)

• รูปแบบนี้ควรได้รับการสนับสนุนจากตัวบ่งชี้ทางเทคนิคอื่น ๆ และการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานที่ยืนยันการกลับตัวเป็นขาขึ้น

วิธีการเทรดด้วยรูปแบบ Evening Star

เมื่อใช้รูปแบบ Evening Star เป็นเครื่องมือในการเทรด เทรดเดอร์ควรสังเกตลักษณะดังต่อไปนี้:

• แท่งเทียนแรกต้องเป็นแท่งสีเขียวยาว ซึ่งบ่งชี้ถึงแนวโน้มขาขึ้น

• แท่งเทียนที่สองควรเป็นแท่งสั้นและเปิดสูงกว่าจุดปิดของแท่งแรก (gap up)

• แท่งเทียนที่สามต้องเป็นแท่งสีแดงยาวและเปิดต่ำกว่าจุดปิดของแท่งที่สอง (gap down)

• รูปแบบนี้ควรได้รับการสนับสนุนจากตัวบ่งชี้ทางเทคนิคอื่น ๆ และการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานที่ยืนยันการกลับตัวเป็นขาลง

ข้อจำกัดของการใช้รูปแบบ Morning Star และ Evening Star

รูปแบบ Morning Star และ Evening Star เป็นตัวบ่งชี้ที่มีประโยชน์สำหรับการคาดการณ์การกลับตัวของแนวโน้ม แต่ก็ไม่ได้แม่นยำสมบูรณ์แบบ เมื่อใช้เครื่องมือวิเคราะห์เหล่านี้ในการเทรด เทรดเดอร์ควรตระหนักถึงข้อจำกัดดังต่อไปนี้:

• รูปแบบเหล่านี้อาจไม่ได้ผลในทุกสภาวะตลาด ตัวอย่างเช่น ในตลาดที่มีความผันผวนสูง รูปแบบ Morning และ Evening Star อาจมีความน่าเชื่อถือน้อยลง

• บางครั้งรูปแบบ Morning Star หรือ Evening Star อาจให้สัญญาณหลอก หากเทรดเดอร์ใช้รูปแบบเหล่านี้เพียงอย่างเดียวในการตัดสินใจเข้าเทรด พวกเขาอาจขาดทุนหนักหากตลาดไม่กลับตัวตามที่คาดการณ์

นอกจากการใช้รูปแบบ Morning และ Evening Star ร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์อื่น ๆ แล้ว เทรดเดอร์ควรใช้กลยุทธ์การจัดการความเสี่ยงที่เหมาะสม ควรมีแผนการจัดการคำสั่งซื้อขายที่ชัดเจน ซึ่งรวมถึงการตั้งคำสั่ง Stop Loss และ Take Profit

สรุป

รูปแบบ Morning Star และ Evening Star เป็นตัวบ่งชี้ที่มีประโยชน์สำหรับการคาดการณ์การกลับตัวของแนวโน้มในตลาดการเงิน เทรดเดอร์มักใช้รูปแบบเหล่านี้เพื่อระบุโอกาสในการซื้อหรือขาย อย่างไรก็ตาม ไม่ควรพึ่งพาเครื่องมือเหล่านี้เพียงอย่างเดียว ในการตัดสินใจเข้าเทรด เทรดเดอร์ควรพิจารณาตัวบ่งชี้ทางเทคนิคอื่น ๆ การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน และกลยุทธ์การจัดการความเสี่ยงร่วมด้วยเสมอ